ตรวจรอยรั่วของท่ออากาศ (HVAC Air Duct Leakage Test)
เพื่อประสิทธิภาพระบบที่ดียิ่งขึ้น

ตรวจรอยรั่วของท่ออากาศ

หลายโรงงานหรืออาคารขนาดใหญ่ อาจไม่รู้เลยว่าพลังงานที่เสียไปทุกเดือน ส่วนหนึ่งเกิดจาก รอยรั่วในท่ออากาศ แอดอยากเล่าให้ฟังว่า การตรวจรอยรั่วไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เพราะมันคือกุญแจที่จะช่วยประหยัดพลังงาน รักษาความสะอาดของอากาศ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ HVAC ทั้งหมด

ทำไมต้องตรวจรอยรั่วของท่ออากาศ (Why Air Duct Leakage Test is Important)

ลองนึกถึงเวลาที่เราเปิดแอร์แรงๆ แต่ประตูห้องเปิดแง้มไว้ ผลก็คือความเย็นรั่วออกไปโดยไม่เกิดประโยชน์ ระบบต้องทำงานหนักขึ้น ค่าไฟก็สูงขึ้นเช่นกัน ท่ออากาศก็คล้ายกัน ถ้ามีรอยรั่ว อากาศที่ควรถูกส่งไปใช้งานจริงกลับหายไประหว่างทาง

การตรวจรอยรั่วจึงสำคัญ เพราะช่วยลดการสูญเสียพลังงาน และยังทำให้ระบบ HVAC ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

วิธีการตรวจรอยรั่วของท่ออากาศ (Air Duct Leakage Test Methods)

การตรวจรอยรั่วมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับมาตรฐานและลักษณะของระบบ แต่หลักๆ คือการสร้างแรงดันอากาศในท่อ แล้วตรวจวัดปริมาณการรั่วออกมา

แอดมักเปรียบเทียบขั้นตอนนี้เหมือนการ “เช็กยางรั่ว” ของรถยนต์ ถ้าปล่อยไว้ รถก็ใช้เชื้อเพลิงมากขึ้นและอายุการใช้งานสั้นลง เช่นเดียวกัน ท่ออากาศที่รั่วก็ทำให้ระบบ HVAC ทำงานหนักโดยไม่จำเป็น

ประโยชน์ของการตรวจรอยรั่ว (Benefits of Air Duct Leakage Test)

เมื่อท่ออากาศไม่มีรอยรั่ว สิ่งที่ได้ตามมาคือ

  • ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน
  • ทำให้อากาศที่ส่งเข้าสู่ห้องมีคุณภาพและควบคุมได้จริง
  • ยืดอายุการใช้งานของ AHU และอุปกรณ์อื่นๆ ในระบบ
  • ลดความเสี่ยงจากฝุ่นหรือสิ่งปนเปื้อนที่อาจเล็ดลอดเข้ามาจากรอยรั่ว

สรุปการตรวจรอยรั่วของท่ออากาศ

การ ตรวจรอยรั่วของท่ออากาศ (HVAC Air Duct Leakage Test) เป็นขั้นตอนที่หลายโรงงานหรืออาคารไม่ควรมองข้าม เพราะมันไม่เพียงช่วยให้ระบบ HVAC ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยลดต้นทุนระยะยาว และรักษาสภาพแวดล้อมภายในให้มีคุณภาพที่เหมาะสม

ทำไมการตรวจรอยรั่วควรทำอย่างสม่ำเสมอ

เพราะรอยรั่วอาจเกิดขึ้นตามการใช้งานและการเสื่อมสภาพของวัสดุ การตรวจเป็นระยะช่วยลดความเสี่ยงได้

มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจรอยรั่วของท่ออากาศ

ANSI/SMACNA 016-2012 และแนวทางจาก ASHRAE เป็นมาตรฐานที่นิยมใช้ในการตรวจวัด

ใครควรให้ความสำคัญกับการตรวจรอยรั่วของท่ออากาศ

ทั้งโรงงานผลิต โรงพยาบาล อาคารสำนักงาน และคลังสินค้าที่ต้องการควบคุมคุณภาพอากาศและประหยัดพลังงาน

Scroll to Top