ตรวจสอบห้องสะอาด (Cleanroom Certification & Testing)
เพื่อความพร้อมใช้งาน

หลายคนอาจสงสัยว่า “ทำไมต้องตรวจสอบห้องสะอาด” แอดอยากเล่าให้ฟังว่า ห้องสะอาดไม่ได้เป็นเพียงแค่พื้นที่สีขาวๆ แต่คือหัวใจสำคัญของโรงงานยา โรงพยาบาล ห้องแล็บ และอุตสาหกรรมที่ต้องการควบคุมคุณภาพสูง การตรวจสอบห้องสะอาดจึงเป็นเหมือนการ “เช็กสุขภาพ” เพื่อให้มั่นใจว่าห้องพร้อมใช้งานจริง และปลอดภัยต่อการทำงาน
การตรวจวัดการไหลของอากาศ (Airflow Velocity & Volume Test)
การไหลของอากาศในห้องสะอาดสำคัญมาก เพราะถ้าลมไม่หมุนเวียนอย่างเหมาะสม ฝุ่นและสิ่งปนเปื้อนอาจสะสมอยู่ได้ การตรวจวัดการไหลของอากาศจึงช่วยยืนยันว่าลมเคลื่อนที่ในทิศทางที่ถูกต้อง และมีปริมาณเพียงพอที่จะรักษาความสะอาดของห้องให้เป็นไปตามมาตรฐาน
ความดันของห้องสะอาด (Room Differential Pressure Test)
ห้องสะอาดจะต้องมีความดันที่แตกต่างจากพื้นที่ภายนอก เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศที่อาจมีสิ่งปนเปื้อนเล็ดลอดเข้ามา การตรวจวัดความดันจึงเป็นเหมือนการตรวจเกราะป้องกันของห้อง หากค่าความดันถูกต้อง ก็มั่นใจได้ว่าห้องสามารถรักษาความสะอาดและความปลอดภัยได้อย่างแท้จริง
การตรวจวัดระดับความสะอาด (Airborne Particle Count Test)
การตรวจวัดระดับความสะอาดคือขั้นตอนที่ใช้ยืนยันว่าอากาศในห้องสะอาดมีฝุ่นละอองและสิ่งปนเปื้อนอยู่ในระดับที่ปลอดภัยหรือไม่ การตรวจนี้เหมือนการตรวจสุขภาพของห้อง ถ้าผลออกมาดี ห้องก็พร้อมใช้งาน แต่ถ้ามีปัญหา ก็สามารถแก้ไขได้ทันก่อนนำไปใช้จริง
สรุปการตรวจสอบห้องสะอาด
การตรวจสอบห้องสะอาด (Cleanroom Certification & Testing) ครอบคลุมทั้งการไหลของอากาศ ความดัน และระดับความสะอาด ทุกขั้นตอนมีเป้าหมายเดียวกัน คือทำให้ห้องพร้อมใช้งานได้อย่างมั่นใจ การลงทุนในการตรวจสอบจึงไม่ใช่ค่าใช้จ่ายที่สูญเปล่า แต่คือการลงทุนเพื่อคุณภาพ ความปลอดภัย และความเชื่อมั่นในกระบวนการทั้งหมด
ทำไมการตรวจสอบห้องสะอาดจึงสำคัญ
เพราะห้องสะอาดคือพื้นที่ที่ความผิดพลาดเล็กน้อยอาจส่งผลใหญ่ การตรวจสอบคือการป้องกันความเสี่ยงตั้งแต่ต้นทาง
ประโยชน์ของการตรวจสอบห้องสะอาดต่อโรงงานและห้องแล็บ
ช่วยลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อน ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ และทำให้ผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐานได้ง่ายขึ้น
มาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบห้องสะอาด
ISO 14644, NEBB, PIC/S และมาตรฐาน GMP ต่างก็ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบห้องสะอาด เพื่อรับรองคุณภาพในระดับสากล